24 ธ.ค. 2020 ::
แบบรายงานเรื่องร้องเรียนที่ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ที่แก้ไขแล้ว
หน่วยงานหรือจังหวัดที่รายงาน......จังหวัดน่าน... ปีงบประมาณ พ.ศ.2563-2564
จำนวน 17 เรื่อง ได้แก่
ข้อมูล ณ วันที่...26..ตุลาคม...2563...
ที่ |
ประเภทเรื่อง/วันที่ร้องเรียน |
ผู้ร้อง/ประเด็นการร้องเรียน |
จำนวนผู้ได้รับผลกระทบ |
การดำเนินงาน |
แนวทางแก้ไข |
1 |
ขอความช่วยเหลือ -5 มกราคม 2563 |
นายเสถียร ไชยศรีธิ ขอความอนุเคราะห์เป็นผู้ป่วย |
1 คน |
จังหวัดน่าน ได้ดำเนินการ ดังนี้ 1. มอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่านตรวจสอบคุณสมบัติผู้ร้องพร้อมทั้งเสนอความเห็นว่าอยู่ในหลักเกณฑ์ฯ ว่าสมควรถวายฎีกาเป็นผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์หรือไม่ อย่างไร 2.แจ้งให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน และเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน พิจารณาให้ความช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป 3. แจ้งผู้ร้องทราบในชั้นต้น
|
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน ได้ดำเนินการตรวจสอบ และพิจารณาให้การช่วยเหลือ 1.1 ประวัติการเจ็บป่วยและการรักษา เด็กชายณัฐภูมิ ไชยศรีธิ อายุ 14 ปี ป่วยด้วยโรคไตวายเรื้องรังตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลน่าน โดยแพทย์นัดติดตามผลอาการทุก 3 เดือน มีประวัติเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลนาหมื่น เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2563 ผู้ป่วยมีอาการหายใจเหนื่อยหอบ ไอมีเสมหะ อาการปัจจุบัน เด็กชายณัฐภูมิ ไชยศรีธิ เสียชีวิตแล้ว เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2563 1.2 การให้ความช่วยเหลือ หน่วยงานในสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน ประกอบไปด้วย โรงพยาบาลนาหมื่น สำนักงานสาธารณสุขอำเภอนาหมื่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปิงหลวง ตำบลปิงหลวง อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน อาสาสมัครสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการ ดังนี้ 1) ก่อนผู้ป่วยเสียชีวิต (๑) ร่วมกันจัดทำแผนดูแล รักษา ติดตามเยี่ยมบ้าน ให้กำลังใจ ผู้ป่วยและญาติ (๒) สนับสนุนอุปกรณ์และน้ำยาล้างไตทางหน้าท้องจากโรงพยาบาลน่าน (๓) สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่านสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้ารับการรักษา จำนวน 2,000 บาท 4.วางแผนสนับสนุนเตียงนอนผู้ป่วยเพื่อใช้สำหรับการฟอกไตที่บ้าน ๒) หลังผู้ป่วยเสียชีวิต ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน อบต.ปิงหลวง และอาสาสมัครสาธารณสุข ติดตามเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจ บิดา และมารดาของผู้ป่วย พร้อมมอบเงินช่วยเหลือครอบครัว |
2 |
ขอความช่วยเหลือ 22 พฤษภาคม 2563 |
นางสาวกันติยา หิมมะวัน ขอพระราชทานความช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลของบุตรสาว |
1 คน |
จังหวัดน่านได้ดำเนินการ ดังนี้ 1 แจ้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน และอำเภอสันติสุข ดำเนินการ ตรวจสอบข้อมูลประวัติ ข้อมูลพื้นฐานของครอบครัว สภาพปัญหาแนวทางการช่วยเหลือรวมทั้งการช่วยเหลือในเบื้องต้น และข้อเสนอแนะ 2 แจ้งเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน พิจารณาให้ความช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้อง
|
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน ได้ชี้แจง - สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน ได้มอบเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวรายสามเณรรณกานต์ฯ จำนวน 6,000 บาท และรายสามเณรชิติพัทธ์ฯ จำนวน 3,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิตประจำวันของครอบครัว และมอบของอุปโภคบริโภคให้แก่ครอบครัวของสามเณรทั้ง 2 รูป จำนวนหนึ่ง - สำนักพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน พิจารณามอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน จำนวน 2,000 บาท เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรักษาพยาบาลตามที่แพทย์นัด และค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิตประจำวันแก่สามเณรทั้ง 2 รูป - โรงพยาบาลสันติสุข จะพิจารณามอบเงินจากกองทุนพระราชทานเพื่อสงเคราะห์คนไข้ยากจนในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีแก่สามเณรทั้ง ๒ รูป - โรงเรียนวัดดอนมงคลสันติสุขวิทยา จะได้พิจารณาช่วยเหลือยานพาหนะรับ – ส่ง ในการเดินทางไปรักษาพยาบาลตามแพทย์นัดตามความประสงค์ของครอบครัวของสามเณรทั้ง 2 รูป - อำเภอสันติสุข จะเป็นผู้ประสานงานกับองค์การบริหารส่วนตำบลดู่พงษ์ ในการขอความช่วยเหลือค่าเดินทางไปรักษาพยาบาลกับทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน ในการเดินทางไปตามที่แพทย์นัดของสามเณรทั้ง 2 รูป |
3 |
ขอความช่วยเหลือ 28 เมษายน 2563 |
นายวิศวะ แซ่โซ้ง |
1 คน |
จังหวัดน่านได้ดำเนินการ ดังนี้ แจ้งสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดน่าน
|
1) สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดน่าน แนะนำให้นายวิศวะฯ กู้ยืมเงินเพื่อใช้ในการศึกษาจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) 2) สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน พิจารณาให้เงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง ข้อเสนอแนะ อำเภอแม่จริม ให้ข้อเสนอแนะในการขอทุนการศึกษาจากโครงการพิเศษ หรือโครงการนักเรียนทุนรัฐบาล ของมหาวิทยาลัยต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยนเรศวร และมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ วิทยาเขตทุ่งศรีทอง รวมทั้งแนะนำโครงการเพชรในตม กรมการปกครองให้แก่นายวิศวะฯ และครอบครัวได้รับทราบ |
4 |
ขอความช่วยเหลือ 18 มีนาคม 2563 |
นายเปล่ง อ่องคำ ขอความช่วยเหลือทุนการศึกษา |
3 คน |
จังหวัดน่านได้แจ้งให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดน่าน ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และพิจารณา หาแนวทางให้ความช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าวตามความเหมาะสมแล้ว |
แนวทางการช่วยเหลือหลานทั้ง 3 คนของนายเปล่งฯ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปได้ ดังนี้ 1) นางสาวศิวพรฯ (หลานสาวคนที่ ๑) 2) นายศิริศักดิ์ฯ (หลานชายคนที่ ๒) กำลังศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ ๑ โรงเรียนช่างฝีมือทหาร โดยมีนายสมศักดิ์ ๓) เด็กหญิงฐิติกาณวรณรรณฯ (หลานสาวคนที่ ๓) กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านคัวะ เนื่องจากเป็นโรงเรียนสังกัดภาครัฐ ทำให้มีค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา |
5 |
- ขอความช่วยเหลือ - ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๓ |
อส.ทพ.คำหล้า อินทะรังษี |
1 คน |
จังหวัดน่านได้แจ้งให้หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 และกองบินที่ 4 ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง |
กองบิน 4 ได้รวบรวมหลักฐานประกอบการพิจารณาและเสนอหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อพิจารณาตำแหน่งที่เหมาะสมให้ต่อไป |
6 |
- ขอความช่วยเหลือ - ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๓ |
นายธนกร แสนย้าง |
1 คน |
- จังหวัดน่านแจ้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน และอำเภอนาน้อย ดำเนินการ ตรวจสอบข้อมูลประวัติ ข้อมูลพื้นฐานของครอบครัว สภาพปัญหาแนวทางการช่วยเหลือรวมทั้งการช่วยเหลือในเบื้องต้น และข้อเสนอแนะ - จังหวัดน่านแจ้งเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน พิจารณาให้ความช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้อง |
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่านตรวจสอบแล้วเด็กหญิงพัชรีฯ เป็นผู้ป่วยที่ไม่เป็นไปตามแนวทางการคัดเลือกผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์ฯ เนื่องจากเป็นโรคที่รักษาได้ หากผู้ป่วยเข้ารับการรักษาจะไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนเกินเนื่องจากได้รับสิทธิหลักประกันสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่านและหน่วยงานในสังกัด ได้แก่ โรงพยาบาลนาน้อย สำนักงานสาธารณสุขอำเภอนาน้อย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลขุนสถาน (รพสต.ขุนสถาน) จึงได้ร่วมกันจัดทำแผนดูแล รักษา ตรวจเยี่ยมบ้าน สัปดาห์ละ 1 ครั้ง และแนะนำให้เริ่มเข้ารับการรักษาตามระบบที่โรงพยาบาลน่าน โดย รพสต.ขุนสถาน จะประสานการส่งตัวเข้ารับการรักษาต่อไป - สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวนายธนกรฯ จำนวน ๓,๐๐๐ บาท (สามพันบาทถ้วน) เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และมอบของอุปโภคบริโภคให้แก่ครอบครัวนายธนกรฯ จำนวนหนึ่ง - สำนักพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมฉุกเฉิน จำนวน ๒,๐๐๐ บาท (สองพันบาทถ้วน) เพื่อเป็นค่าเดินทางไปรักษาพยาบาลตามที่แพทย์นัด |
7 |
- ขอความช่วยเหลือ - ๑8 มีนาคม ๒๕๖๓ |
นายสมัคร วังมงคล กำนันตำบลส้านนาหนองใหม่ อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน |
ราษฎรในพื้นที่ตำบลน้ำมวบ และตำบลส้านนาหนองใหม่ อำเภอเวียง จังหวัดน่าน |
จังหวัดน่านได้แจ้งให้โครงการชลประทานน่าน พิจารณาตรวจสอบและเสนอแนะแนวทางในการดำเนินโครงการหรือแก้ไขปัญหาต่อไป |
โครงการชลประทานน่าน ได้เสนอแนวทางแก้ไขเป็น 3 ระยะ ได้แก่ 1) แผนการแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วนในปี 2563 ให้ทำการขุดลอกลำน้ำมวบบริเวณหน้าฝายปู่ถาเพื่อเพิ่มปริมาณการกักเก็บน้ำ 2) แผนการแก้ไขปัญหาระยะปานกลาง (2564-2567) จังหวัดน่านแจ้งให้โครงการชลประทานน่านศึกษาความเหมาะสมและดำเนินการพัฒนาแหล่งเก็บน้ำในลำน้ำมวบ (แก้มลิง) จำนวน 4 แห่ง เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำ 3) แผนแก้ไขปัญหาระยะยาว จังหวัดน่านได้มอบให้โครงการชลประทานน่านประสาน กรมชลประทานเพื่อศึกษาความเหมาะสมของโครงการการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำลำน้ำมวบ ตามระเบียบของกรมชลประทาน และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป ซึ่งตามแผนงานการศึกษาความเหมาะสมและการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ปี 2567 |
8 |
ขอความช่วยเหลือ 3 เมษายน 2563 |
พระครูถาวรรัตนานุกิจ |
1 คน |
จังหวัดน่านได้ดำเนินการ ดังนี้ - แจ้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน และอำเภอสันติสุข ดำเนินการ ตรวจสอบข้อมูลประวัติ ข้อมูลพื้นฐานของครอบครัว สภาพปัญหาแนวทางการช่วยเหลือรวมทั้งการช่วยเหลือในเบื้องต้น และข้อเสนอแนะ - แจ้งเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน พิจารณาให้ความช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้อง
|
1) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน ได้ชี้แจงแนวทางการขอพระราชทานการเป็นผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกุมารี ซึ่งผู้ป่วยทั้งสองรายไม่เป็นไปตามแนวทางการคัดเลือกผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์ เนื่องจากผู้ป่วยที่จะได้รับพระราชทานความช่วยเหลือด้านการรักษาและ/หรือค่าเดินทางจะต้องเป็นผู้ป่วยหนัก มีฐานะยากจน (ไม่ได้รับสิทธิค่ารักษาพยาบาล) และโรคที่รักษาไม่หาย สำหรับการผ่าตัดของสามเณรรณกานต์ฯ คาดว่าไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนเกินในการผ่าตัด 2) สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน ได้มอบเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวรายสามเณรรณกานต์ฯ จำนวน 6,000 บาท และรายสามเณรชิติพัทธ์ฯ จำนวน 3,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิตประจำวันของครอบครัว และมอบของอุปโภคบริโภคให้แก่ครอบครัวของสามเณรทั้ง 2 รูป จำนวนหนึ่ง 3) สำนักพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน พิจารณามอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน จำนวน 2,000 บาท เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรักษาพยาบาลตามที่แพทย์นัด และค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิตประจำวันแก่สามเณรทั้ง 2 รูป 4) โรงพยาบาลสันติสุข จะพิจารณามอบเงินจากกองทุนพระราชทานเพื่อสงเคราะห์คนไข้ยากจนในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีแก่สามเณรทั้ง ๒ รูป 5) โรงเรียนวัดดอนมงคลสันติสุขวิทยา จะได้พิจารณาช่วยเหลือยานพาหนะรับ – ส่ง ในการเดินทางไปรักษาพยาบาลตามแพทย์นัดตามความประสงค์ของครอบครัวของสามเณรทั้ง 2 รูป 6) อำเภอสันติสุข จะเป็นผู้ประสานงานกับองค์การบริหารส่วนตำบลดู่พงษ์ ในการขอความช่วยเหลือค่าเดินทางไปรักษาพยาบาลกับทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน ในการเดินทางไปตามที่แพทย์นัดของสามเณรทั้ง 2 รูป ข้อเสนอแนะ - อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านดู่พงษ์ หมู่ที่ ๒ จะติดตามอาการและผลการรักษาของสามเณรทั้ง 2 รูป เป็นระยะๆ ต่อไป |
9 |
-ขอความช่วยเหลือ - 5 มีนาคม 2563
|
- เด็กหญิงทิพรดา รุ่งเรือง
|
๑ คน |
-จังหวัดน่านประสานแจ้งให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน และอำเภอเชียงกลาง ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
|
- สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน รายงานข้อเท็จจริง ดังนี้ - ประวัติการเจ็บป่วยและการรักษา ผู้ป่วยเป็นโรคพุ่มพวงหรือโรคภูมิแพ้ตนเอง (SLE : Systemic Lupus Erytrymatosus), มีภาวะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย (ESRD : End Stage Renal Disease) ได้เริ่มมีอาการเจ็บป่วยเข้ารับการรักษาเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2561 ใส่สายท่อล้างไตทางหน้าท้อง (CAPD : Continuous Ambulatory Peritoneal Dialysis) ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2561 รับการรักษาโดยการล้างไตทางหน้าท้องวันละ 4 ครั้ง และพบแพทย์ตามนัดเดือนละ 1 ครั้ง ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว ปัจจุบันได้รับการส่งต่อเพื่อรับการรักษาด้วยการปลูกถ่ายไตให้แก่ผู้ป่วย โดยมารดาของผู้ป่วยเป็นผู้บริจาคไต ซึ่งจะต้องเดินทางเข้ารับการเตรียมความพร้อมตามโครงการผ่าตัดปลูกถ่ายไต จำนวน 4 ครั้ง ก่อนทำการผ่าตัดปลูกถ่ายไต ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เริ่มวันที่ 29 เมษายน 2562 โดยอาการปัจจุบันผู้ป่วยรู้สึกตัวดีช่วยเหลือตัวเองได้ รับประทานอาหารได้ นอนหลับได้ดี ปัสสาวะออกดี แผลช่องสายออกทางหน้าท้องแห้งดีไม่มีการติดเชื้อ - การให้ความช่วยเหลือ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่านและหน่วยงานในสังกัด ประกอบด้วย โรงพยาบาลเชียงกลาง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเชียงกลาง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านชี ตำบลเชียงกลาง อำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน และอาสาสมัครสาธารณสุข ดำเนินการดังนี้ 1) ร่วมกันจัดทำแผนดูแล รักษา ติดตามเยี่ยมบ้าน ให้กำลังใจ ให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตนเองและโรคไตวายเรื้อรัง และให้คำแนะนำการดูแลผู้ป่วยแก่ญาติ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง คือ ทุกวันพฤหัสบดี ช่วงเวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ดำเนินการตั้งแต่เดือนมีนาคม 2562 เป็นต้นมา 2) ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ อำเภอเชียงกลาง องค์การบริหารส่วนตำบลเชียงกลางพญาแก้ว เพื่อวางแผนสนับสนุนการส่งต่อผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตามแพทย์นัดที่โรงพยาบาล-สมเด็จพระยุพราชปัวและโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และการปรับปรุงห้องสำหรับล้างไตด้วยตนเองที่บ้าน 4) ประสานหน่วยงาน... 3) ร่วมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน บ้านพักเด็ก-และครอบครัวจังหวัดน่าน ร่วมกันติดตามเยี่ยมบ้านผู้ป่วย เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2562 จัดหาที่พักในจังหวัดน่าน ระหว่างเดินทางเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ พร้อมทั้งสนับสนุนเงินค่าใช้จ่าย ครั้งละ 2,000 บาท |
10 |
ขอความช่วยเหลือ 14 เมษายน 2563 |
นางเปา แซ่โซ้ง ขอพระราชทานความช่วยเหลือเรื่องเบี้ยยังชีพ
|
1 คน |
สำนักงานจังหวัดน่านได้พิจารณาแล้ว เพื่อเป็นการรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง และแนวทางการดูแลช่วยเหลือ จึงเห็นควรดำเนินการ ดังนี้ 2.1 แจ้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน และอำเภอสองแคว ดำเนินการ ตรวจสอบข้อมูลประวัติ ข้อมูลพื้นฐานของครอบครัว สภาพปัญหาแนวทางการช่วยเหลือรวมทั้งการช่วยเหลือในเบื้องต้น และข้อเสนอแนะ 2.2 แจ้งเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน พิจารณาให้ความช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้อง
|
- อำเภอสองแคว รายงานว่า ได้ประสานกับองค์การบริหารส่วนตำบลนาไรหลวงและสำนักงานสาธารณสุขอำเภอสองแคว ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสรุปได้ ดังนี้ 1) ในอดีตนางเปาฯ ได้เดินทางไปรักษาอาการเจ็บป่วยที่โรงพยาบาลลำปางด้วยตนเองเมื่อนานมาแล้ว แพทย์แจ้งว่าเจ็บป่วยด้วยโรคกระดูกพรุน แพทย์ให้ยามารับประทานและไม่มีนัดเพื่อรักษาต่อเนื่อง 2) เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2563 นางเปาฯ เข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลสองแคว ด้วยอาการ 1 สัปดาห์ก่อน นางเปาฯ หกล้ม มีอาการปวดบริเวณหัวแม่เท้าข้างขวา ปวดเอวร้าวลงขา ไม่มีอาการชา ปัสสาวะแสบขัด ออกกะปริดกะปรอย ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม ไม่มีเลือดปน ไม่มีปวดท้อง ไม่มีไข้แพทย์วินิจฉัยโรคเป็น Anterior spinal and vertebral artery compression syndromes กลุ่มอาการ หลอดเลือดแดงไขสันหลังด้านหน้าและกระดูกสันหลังถูกกด ได้รับยาไปรับประทานที่บ้าน แพทย์นัดตรวจทางห้องปฏิบัติการในวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 (ตรวจ Urine Analysis (UACreatinine uricacid)หากผลการตรวจห้องปฏิบัติการผิดปกติแพทย์จะพิจารณาส่งต่อให้ไปรับการรักษา ณ โรงพยาบาลน่าน 3) จากอาการเจ็บป่วยดังกล่าว นางเปาฯ ให้ข้อมูลว่า ไม่สามารถทำงานหนักได้และมีความจำเป็นต้องเดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจรักษาอยู่เป็นประจำ มีความลำบากในการเดินทางและเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรับการตรวจรักษา นางเปาฯ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เมื่อครั้งวันที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่บ้านถ้ำเวียงแก เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 นางเปาฯ จึงได้ขอพระราชทานความช่วยเหลือ เนื่องจากครั้งที่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่บ้านถ้ำเวียงแก เมื่อประมาณ20 กว่าปีที่ผ่านมา นายภูเบศร์ ทุ่งทองโรจนะ (นามสกุลเดิมคือ แซ่โซ้ง) สามีของนางเปาฯ ขณะนั้น ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านถ้ำเวียงแก และได้ทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษาม้งที่ราษฎรได้สื่อสารให้กับในหลวงรัชกาลที่ 9 ทราบ นางเปาฯ จึงคิดว่าจากการที่นายภูเบศร์ฯ เคยปฏิบัติหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษา ในหลวงรัชกาลที่ 9 อย่างใกล้ชิด จึงอยากขอพระราชทานความช่วยเหลือจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อขอพระราชทานเงินเพื่อรักษาโรคประจำตัวของตนเองจนกว่าจะเสียชีวิต 4) นางเปา ทุ่งทองโรจนะ (นามสกุลเดิม 5) การรักษาพยาบาล นางเปาฯ มีสิทธิในการรักษาพยาบาลประเภทบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า (ผู้สูงอายุ) ซึ่งถ้าเข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลสองแคว จะไม่มีการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลแต่อย่างใด โดยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านถ้ำเวียงแก เป็นผู้ประสานเกี่ยวกับการเข้ารับการรักษาและผลการรักษาของผู้ป่วยกับทางโรงพยาบาล สองแควหรือโรงพยาบาลน่าน โดยมีอาสาสมัครสาธารณะสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ออกติดตามเยี่ยมบ้านอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง 2.2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2563 หน่วยงานในสังกัดประกอบด้วย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านถ้ำเวียงแก และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอสองแคว อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และนายอำเภอสองแคว ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลนาไร่หลวง ได้ออกติดตามเยี่ยมสอบถามข้อเท็จจริง และดำเนินการดังนี้ 1) ร่วมกันจัดทำแผนดูแล รักษา ติดตามเยี่ยมบ้าน ให้กำลังใจ ให้คำแนะนำปรึกษาการดูแลสุขภาพผู้ป่วย เดือนละ 2 ครั้ง โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านถ้ำเวียงแกร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) 2) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านถ้ำเวียงแกประสานเรื่องการเข้ารับการรักษาและผลการรักษาของนางเปาฯ กับโรงพยาบาลสองแคว รวมทั้งประสานการส่งต่อนางเปาฯ ไปยังโรงพยาบาลสองแควและโรงพยาบาลน่าน 3) องค์การบริหารส่วนตำบลนาไร่หลวง ให้ความช่วยเหลือกรณีหากนางเปาฯ ไม่มีรถรับส่งในการไปรับการรักษา ณ โรงพยาบาลสองแควหรือโรงพยาบาลน่าน 4) นางเปาฯ ขอขึ้นทะเบียนผู้พิการเพื่อรับสิทธิผู้พิการ จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า นางเปาฯ ไม่มีความพิการที่เห็นชัดเจน ต้องให้แพทย์เป็นผู้ตรวจวินิจฉัยความพิการและออกใบรับรองความพิการ เพื่อประสานองค์การบริหารส่วนตำบลนาไร่หลวงและสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่านในการขึ้นทะเบียนต่อไป 5) นางเปาฯ ขอพระราชทานเงินเพื่อรักษาโรคประจำตัวของตนเองจนกว่าจะเสียชีวิต จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า นางเปาฯ มีสิทธิในการรักษาพยาบาลประเภทบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า (ผู้สูงอายุ) ทางโรงพยาบาลสองแควไม่ได้เรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลแต่อย่างใด |
11 |
ขอความช่วยเหลือ 2 เมษายน 2563 |
ราษฎรบ้านห้วยเดื่อ หมู่ที่ 3 ตำบลศรีภูมิ อำเภอท่าวังผา |
ราษฎรบ้านห้วยเดื่อ หมู่ที่ 3 ตำบลศรีภูมิ อำเภอท่าวังผา |
จังหวัดน่านได้ดำเนินการ ดังนี้ 1) ให้สำนักงานเกษตรจังหวัดน่าน สำรวจความเสียหาย พร้อมทั้งจัดทำข้อมูล ผลผลิตย้อนหลัง จำนวน 3 ปี ของข้าว และหรือผลผลิตทางการเกษตรใด ของประชาชนที่ปลูกบริเวณโดยรอบโรงงานที่มีการร้องเรียนดังกล่าว ทั้งนี้ ให้เปรียบเทียบกับผลผลิตที่ปลูกในพื้นที่อื่นว่ามีความแตกต่างกันหรือไม่อย่างไร 2) ให้สถานีพัฒนาที่ดินน่าน สำรวจตัวอย่างดินบริเวณโดยรอบโรงงานกับดินพื้นที่ บริเวณอื่น ทั้งนี้ให้จัดทำข้อมูลเปรียบเทียบแสดงผลให้เห็นชัดเจน
|
1. กรณีเรื่องร้องเรียน ข้างต้น ราษฎรได้ร้องเรียนไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลศรีภูมิ อีกทางหนึ่ง ว่ามีการปล่อยน้ำเสียลงในลำเหมืองสาธารณะ ทำให้เกิดกลิ่นเหม็น โดยเมื่อวันที่ 20 ,24 กุมภาพันธ์ 2563 องค์การบริหารส่วนตำบลศรีภูมิ ได้เชิญเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดน่าน ร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า สถานประกอบการดังกล่าวมีผักกาดดองรอแปรรูปจำนวน 42 บ่อภายในโรงงานมีระบบบำบัดน้ำเสียแต่ไม่สามารถใช้งานได้ มีบ่อพักน้ำเสียภายในโรงงานจำนวน 1 บ่อตรวจพบน้ำเสียบริเวณพื้นที่เกษตรกรรมด้านหลังโรงงานและลำเหมืองสาธา |